Brand Movement

15.05.2024

SLEEK EV พลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง ณ งาน “Mission Zero”ผ่านการนำเสนอนวัตกรรม รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืน

SLEEK EV พลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง ณ งาน “Mission Zero”ผ่านการนำเสนอนวัตกรรม รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืน


กรุงเทพฯ, 14 พฤษภาคม 2567 - บริษัท SLEEK EV จำกัด บริษัทรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของงาน "Mission Zero" จัดขึ้นในวันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2567 โดยโอกาสสำคัญครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ในการพลิกโฉมภูมิทัศน์อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง รวมถึงเป้าหมายในการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ผ่านวิสัยทัศน์ แนวปฏิบัติด้านความยั่งยืน และนวัตกรรมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำสมัย


คุณกันตินันท์ ตันวีนุกูล Chief Executive Officer และ Co-founder ของ SLEEK EV เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของบริษัท โดยระบุว่า "ท่ามกลางปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่มากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ที่อุณหภูมิโลกพุ่งสูงขึ้น การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็น 'ศูนย์' ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยทาง SLEEK EV รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้พัฒนานวัตกรรมจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่มีแนวคิดสอดรับกับเป้าหมายดังกล่าว"


นอกจากนี้ คุณกันตินันท์ได้นำเสนอ นวัตกรรม S Drive 1.0 อันก้าวล้ำ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจหลักของทางบริษัทให้สำเร็จลุล่วง โดยเทคโนโลยี S Drive 1.0 จะพร้อมส่งมอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้น สามารถทะยานความเร่งจาก 0 ถึง 60 กม./ชม. ในเวลา 3.9 วินาที และใช้พลังงานสูงสุดเพียง 17 วัตต์-ชั่วโมง/กม. ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐานระดับโลก รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ SLEEK EV จะมีคุณสมบัติในการชาร์จที่รวดเร็ว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. เท่านั้น


ต่อมา คุณ Ong Zhang Quan Chief Operating Officer และ Co-founder ของ SLEEK EV ได้นำเสนอ แอปพลิเคชัน SLEEK EV สุดชาญฉลาด ซึ่งสามารถเชื่อมกับทุกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ภายในรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ แอปพลิเคชันดังกล่าวยังใช้งานง่าย สะดวกต่อการเข้าถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับยานพาหนะ พร้อมให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น โหมดความปลอดภัย (Secure Mode) โหมดค้นหา (Find Me Mode) โหมดปลดล็อกเบาะนั่ง (Seat Unlock) รวมถึงการค้นหาสถานี S Charge และประวัติการใช้งานโดยนวัตกรรมนี้ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ในยุคปัจจุบัน



จากนั้น คุณกันตินันท์ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทด้านความยั่งยืน ผ่านการเปิดตัว เทคโนโลยี S Charge รวมถึงโครงการริเริ่มในการมุ่งติดตั้งจุด S Charge ทั่วประเทศ หวังให้เป็นโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่พร้อมอำนวยความสะดวกในการชาร์จแก่ผู้ขับขี่ของ SLEEK EV พร้อมส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและทรัพยากรทางเลือก

โดยช่วงเวลาสำคัญของงานในครั้งนี้คือการเปิดตัวนวัตกรรมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าซีรีส์ใหม่จาก SLEEK EV ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ SLEEK EV TYPE-S, TYPE-E, TYPE-X และ SLEEK PLAY 1.0 ซึ่งนำเสนอพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ผ่านการผสมผสานที่โดดเด่น ระหว่างประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และกำลังซื้อของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

ราคาและคุณสมบัติ:


  • TYPE-S ราคาเริ่มต้นที่ 49,900 บาท และ 69,900 บาท ความเร็วสูงสุด 70 กม./ชม. ระยะขับขี่ 175 กม.
  • SLEEK PLAY 1.0 ราคาเริ่มต้นที่ 59,900 บาท และ 79,900 บาท ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. ระยะขับขี่ 150 กม.
  • TYPE-E ราคาเริ่มต้นที่ 69,900 บาท และ 89,900 บาท ความเร็วสูงสุด 90 กม./ชม. ระยะขับขี่ 150 กม.
  • TYPE-X ราคาเริ่มต้นที่ 79,900 บาท และ 99,900 บาท ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. ระยะขับขี่ 150 กม.


นอกจากนี้ ทาง SLEEK EV ยังได้ริเริ่มสร้างความยั่งยืนแก่สิ่งแวดล้อม ผ่าน โครงการรีไซเคิลแบตเตอรี่ (Battery Repurposing Program) โดยรวบรวมแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว นำเข้ากระบวนการเฉพาะ และนำกลับมาใช้ใหม่ในรูปแบบของหน่วยกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจหลักของทางบริษัทในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ในช่วงท้ายของงานคุณกันตินันท์ได้เน้นย้ำบทบาทของ SLEEK EV ในฐานะการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนโลกสู่อนาคตแห่งการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นศูนย์ (Net Zero) โดยกล่าวถึงความแน่วแน่ของบริษัทในการพลิกโฉมภูมิทัศน์อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่งในปัจจุบัน เพื่อก้าวสู่อนาคตแห่งความยั่งยืนอย่างแท้จริง


จากความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของงาน "Mission Zero" ในครั้งนี้ ทาง SLEEK EV พร้อมมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆรวมถึงอุทิศตนให้กับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนต่อๆ ไปอย่างไม่หยุดยั้ง